Show Notes
- พิกัด Lazada/Shopee: https://9natree.top/book/ThingsNoOneTaughtUsAboutLove
- พิกัด Kinokuniya: https://9natree.top/p/Kinokuniya/ThingsNoOneTaughtUsAboutLove
- Kindle [EN] : https://www.amazon.com/dp/B0DHV398ZK?tag=9natree-20
#ThingsNoOneTaughtUsAboutLove #รีวิวThingsNoOneTaughtUsAboutLove #สรุปThingsNoOneTaughtUsAboutLove #หนังสือThingsNoOneTaughtUsAboutLove
1. ความรักที่แท้จริงคืออะไร?
ความรักที่แท้จริงตามแหล่งข้อมูล ไม่ได้เป็นเพียงแค่ความดึงดูดทางกายภาพหรือการหาคนที่ตอบสนองความต้องการทั้งหมดของคุณเพียงคนเดียว แต่เป็นความรักที่บริสุทธิ์ สร้างแรงบันดาลใจ และดีงาม เป็นความรักที่ช่วยให้คุณรักตัวเองได้อย่างลึกซึ้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่ยากลำบาก เป็นการถูกรักโดยใครบางคนที่อดทนและเข้าใจ พร้อมที่จะรับฟังและยอมรับความเปราะบางของคุณอย่างอบอุ่น ความรักที่ยั่งยืนคือการยอมรับและเฉลิมฉลองความแตกต่างพอๆ กับความเหมือนกัน ไม่พยายามที่จะเปลี่ยนแปลงใคร แต่เลือกที่จะเห็นพวกเขาในแบบที่พวกเขาเป็นอย่างมีความสุข ความรักหล่อเลี้ยงเรา เปรียบเสมือนแหล่งน้ำบริสุทธิ์ที่อยู่ในตัวเรา ซึ่งเราสามารถใช้มันเพื่อหล่อ
2. เลี้ยงตัวเองและแบ่งปันกับผู้อื่นได้
เหตุใดการรู้จักตัวเองจึงสำคัญในการสร้างความสัมพันธ์ที่ดี?
เป็นเรื่องยากที่จะสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้อื่นหากคุณยังไม่ได้สร้างความสัมพันธ์กับตัวเอง การรู้จักตัวเองอย่างลึกซึ้งจะนำมาซึ่งความสัมพันธ์ที่มีสติและมีความสุขมากขึ้น หากปราศจากความเข้าใจในค่านิยมและความเชื่อหลักของคุณ ความสัมพันธ์จะรู้สึกสับสนและไม่มั่นคง การรู้และรักตัวเองอย่างแท้จริงจะช่วยให้คุณสัมผัสประสบการณ์ความรักและความสัมพันธ์ในขีดความสามารถสูงสุด ช่วยให้คุณระบุความสัมพันธ์ที่สะท้อนถึงความรักที่คุณมีให้ตัวเอง และยังช่วยให้คุณมองเห็นผู้อื่นในแง่มุมที่เป็นบวกอย่างไม่มีเงื่อนไข แทนที่จะมองผ่านการตัดสิน เมื่อคุณปล่อยวางเรื่องราวของอัตตาที่จำกัดเกี่ยวกับตัวตนของคุณ พื้นที่สำหรับความรัก ความเมตตา และสติปัญญาจะเปิดเผยขึ้น การรู้และรักตัวเองอย่างแท้จริงจะเสริมสร้างการเชื่อมโยงของคุณ เรายอมรับตัวเอง จากนั้นจึงขยายทัศนคติการยอมรับนั้นไปยังผู้อื่น
3. อัตตาหรือ Ego มีบทบาทอย่างไรในความสัมพันธ์ และเราจะเอาชนะเงาของมันได้อย่างไร?
อัตตาคือส่วนหนึ่งของตัวเราที่ได้รับการเรียนรู้และปรับสภาพ เป็นส่วนที่ได้รับคำบอกว่าต้องทำอะไรจากผู้ปกครอง เป็นส่วนที่ได้รับการศึกษา เป็นตัวตนที่เราจินตนาการว่าเราควรจะเป็นในเรื่องราว เป็นสิ่งที่เรากลัว และสิ่งที่ทำให้เราตึงเครียด และเป็นสิ่งที่ทำให้เรารู้สึกว่าไม่มีคุณค่า อัตตาเปรียบเสมือนกำแพงป้องกันที่เราสร้างขึ้นในวัยเด็กเพื่อความปลอดภัย แต่สิ่งที่ปกป้องเราในตอนนั้นอาจทำให้เราอ่อนแอลงในตอนนี้ เงาของอัตตาเกิดขึ้นเมื่อมีสิ่งกีดขวางแสงของเราเอง ซึ่งเป็นอุปสรรคภายในต่อความรัก การเอาชนะเงาของอัตตาไม่ได้หมายถึงการแสวงหาความรัก แต่เป็นการแสวงหาและค้นหาอุปสรรคภายในทั้งหมดที่เราสร้างขึ้นต่อความรัก หากเราสามารถก้าวข้ามภาพลักษณ์ที่จิตใจสร้างขึ้นเกี่ยวกับตัวเองผ่านเรื่องราวและการตัดสิน เราก็จะค้นพบธรรมชาติที่แท้จริงของเรา ซึ่งเป็นตัวตนแห่งความรักที่ไม่มีเงื่อนไข เหมือนกับดวงอาทิตย์
4. ทำไม "ประเภท" หรือ 'Type' ของคนที่เรามักจะดึงดูดอาจไม่ดีสำหรับเรา?
หากคุณมี "ประเภท" ที่มักจะนำคุณไปสู่ความเจ็บปวดใจ สิ่งที่คุณมีไม่ใช่แค่ความชอบ แต่เป็นรูปแบบการเลือกคนที่สะท้อนถึงส่วนที่คุณยังไม่ได้รับการเยียวยา เมื่อคุณพิจารณาความสัมพันธ์ในปัจจุบันหรือความสัมพันธ์ที่เป็นไปได้ ให้คิดถึงวิธีที่พวกเขาทำให้คุณรู้สึก คุณสามารถเป็นตัวของตัวเองที่ผ่อนคลายและเปิดเผยได้เมื่ออยู่กับพวกเขา หรือคุณรู้สึกเหมือนต้องแสดง? คุณต้องคิดมากเกี่ยวกับสิ่งที่คุณพูดและทำ หรือคุณสามารถอยู่กับพวกเขาในปัจจุบันขณะได้? รูปแบบของคนที่เราดึงดูดมักจะถูกขับเคลื่อนโดยรูปแบบในอดีต ซึ่งอาจเป็น samskaras หรือรอยประทับทางจิตใจหรืออารมณ์ที่หลงเหลืออยู่จากประสบการณ์ในอดีต สิ่งเหล่านี้มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมของเราโดยที่เรามักไม่รู้ตัว นอกจากนี้ "halo effect" หรือผลกระทบจากรัศมี ซึ่งเป็นอคติทางความคิดที่ทำให้เรามองเห็นคุณสมบัติเชิงบวกอื่นๆ โดยอิงจากคุณสมบัติที่น่าพึงพอใจเพียงอย่างเดียว ก็อาจทำให้เรามองข้ามสัญญาณเตือนภัยและเลือกคนที่อาจไม่เหมาะสมกับเราได้
5. เราจะสร้างความไว้วางใจในความสัมพันธ์ได้อย่างไร และความไว้วางใจเริ่มต้นที่ไหน?
ความไว้วางใจเริ่มต้นที่ตัวคุณเอง การมีความเชื่อมั่นในการตัดสินใจของคุณเองไม่ได้รับประกันความซื่อสัตย์ของคู่ของคุณ แต่ช่วยให้คุณยืนหยัดในคุณค่าของคุณเมื่อนำทางความสัมพันธ์ การเชื่อมั่นในความสามารถของคุณในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลง ช่วยให้คุณเพลิดเพลินไปกับความสัมพันธ์ได้ และหากมีปัญหาเกิดขึ้น ความรู้สึกถึงความแข็งแกร่งภายในจะช่วยให้คุณมีสติและชัดเจน การวางรากฐานการตัดสินใจของคุณด้วยความเชื่อมั่นในตัวเองหมายความว่าคุณจะถูกเอาเปรียบน้อยลง หรือสัมผัสประสบการณ์ความอิจฉาในระดับที่ไม่ดีต่อสุขภาพ และคุณจะสามารถสร้างพลวัตที่ดีต่อสุขภาพได้มากขึ้น ความซื่อสัตย์และความไว้วางใจเปรียบเสมือนเหรียญสองด้าน การซื่อสัตย์กับคู่ของคุณช่วยให้พวกเขาได้รู้จักคุณและเพิ่มความสนิทสนม หากปราศจากความซื่อสัตย์ที่เคารพซึ่งกันและกัน ก็ไม่มีความไว้วางใจ หากไม่มีความไว้วางใจ ก็ไม่ปลอดภัย หากไม่ปลอดภัย ก็ไม่สนิทสนม และหากไม่สนิทสนม ก็ไม่มีการเชื่อมโยง
6. การตั้งขอบเขตในความสัมพันธ์คืออะไร และเหตุใดจึงสำคัญ?
การตั้งขอบเขตคือการกำหนดขีดจำกัดที่ชัดเจนเกี่ยวกับสิ่งที่ยอมรับได้และไม่ยอมรับได้ในความสัมพันธ์ สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่กฎที่เข้มงวด แต่เป็นการแสดงความต้องการและค่านิยมของคุณ เพื่อให้ความสัมพันธ์ของคุณมีสุขภาพดีและมีความสุข การตั้งขอบเขตเป็นสิ่งสำคัญเพราะเป็นการกระทำที่แสดงถึงความรักต่อตัวเอง ช่วยให้คุณรักษาสุขภาพที่ดีโดยไม่ทำให้ตัวเองอึดอัด เมื่อคุณรู้ความต้องการ ขีดจำกัด และคุณค่าภายในของคุณ คุณก็สามารถจัดการกับความสัมพันธ์ได้อย่างมีความเมตตา ขอบเขตควรตั้งขึ้นอย่างสงบและเป็นส่วนตัว แต่บางครั้งก็จำเป็นต้องตั้งขึ้นในช่วงเวลาที่มีความขัดแย้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณกำลังถูกดูถูก คนที่เหมาะสมจะไม่รู้สึกถูกคุกคามโดยขอบเขตของคุณ และจะเคารพคุณในการยืนหยัดในจุดยืนของคุณ ขอบเขตไม่ควรถูกใช้เพื่อซ่อนความลับที่สร้างความเสียหาย
7. เราจะจัดการกับความขัดแย้งและแก้ไขปัญหาในความสัมพันธ์ได้อย่างไร?
การจัดการกับความขัดแย้งในความสัมพันธ์ต้องอาศัยความเต็มใจที่จะสื่อสารด้วยความห่วงใยและรับผิดชอบ การสื่อสารด้วยความห่วงใยช่วยให้เราใกล้ชิดกันมากขึ้น แม้ว่าคุณจะมีความเห็นไม่ลงรอยกัน คุณก็ต้องทำอย่างยุติธรรม การรับผิดชอบเป็นสิ่งสำคัญ เมื่อเกิดความขัดแย้ง แทนที่จะพยายามเอาชนะ ให้มุ่งเน้นไปที่การทำความเข้าใจซึ่งกันและกัน ฟังอย่างลึกซึ้งโดยไม่ตัดสิน และเต็มใจที่จะเห็นมุมมองของอีกฝ่าย การรับฟังคือการเปิดโอกาสให้ผู้อื่นได้แสดงออกโดยไม่ต้องกลัวการวิพากษ์วิจารณ์หรือการตัดสิน การยอมรับความถูกต้องของความรู้สึกของพวกเขา สร้างบรรยากาศของการยอมรับ การเผชิญหน้ากับความต้องการที่ไม่ได้รับการตอบสนองของเราเองและความเต็มใจที่จะเยียวยาบาดแผลในอดีตก็มีความสำคัญเช่นกัน การแก้ไขปัญหาในความสัมพันธ์คือการมองปัญหาเป็นโอกาสในการเติบโต แทนที่จะเป็นพลังที่ทำให้ไม่มั่นคง
8. ทำไมเราถึงไม่ควรคาดหวังให้คนคนเดียวตอบสนองความต้องการทางอารมณ์ทั้งหมดของเรา?
การคาดหวังให้คนคนเดียวตอบสนองความต้องการทั้งหมดของเรานั้นเป็นไปไม่ได้ และเราไม่สามารถโยนความต้องการทั้งหมดของเราให้คนคนเดียวได้ เป็นเรื่องดีต่อสุขภาพมากกว่าที่จะมีช่องทางอื่น ๆ กับผู้ที่สามารถให้สิ่งที่คุณต้องการได้ ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน ครอบครัว หรือเพื่อนร่วมงาน นั่นไม่ได้ทำให้ความสัมพันธ์ของคุณกับคู่ของคุณมีความหมายน้อยลง ตรงกันข้าม มันทำให้ความสัมพันธ์คงทนและคุ้มค่ามากขึ้น ความต้องการของคุณเป็นของคุณเอง เราสามารถแบ่งปันความต้องการของเรากับคู่ของเรา และพวกเขาอาจพยายามตอบสนองความต้องการเหล่านั้นด้วยความรัก แต่ไม่มีใครต้องรับผิดชอบต่อความต้องการของคุณ หากคุณคาดหวังให้คนอื่นเติมเต็มช่องว่างในตัวคุณ คุณก็มีแนวโน้มที่จะผิดหวัง