Show Notes
- พิกัด Lazada/Shopee: https://9natree.top/book/GoodVibesGoodLifeHowSelfLoveIstheKeytoUnlockingYourGreatness
- พิกัด Kinokuniya: https://9natree.top/p/Kinokuniya/GoodVibesGoodLifeHowSelfLoveIstheKeytoUnlockingYourGreatness
- Kindle [EN] : https://www.amazon.com/dp/B07C6T7XMW?tag=9natree-20
#GoodVibesGoodLifeHowSelfLoveIstheKeytoUnlockingYourGreatness #รีวิวGoodVibesGoodLifeHowSelfLoveIstheKeytoUnlockingYourGreatness #สรุปGoodVibesGoodLifeHowSelfLoveIstheKeytoUnlockingYourGreatness #หนังสือGoodVibesGoodLifeHowSelfLoveIstheKeytoUnlockingYourGreatness
1. 'Good Vibes, Good Life' กล่าวถึงหลักการสำคัญอะไรในการใช้ชีวิตที่ดีขึ้น?
หนังสือเล่มนี้เน้นย้ำถึงความสำคัญของ 'แรงสั่นสะเทือน' และวิธีที่มันส่งผลต่อความเป็นจริงของเรา โดยเชื่อว่าจักรวาลตอบสนองต่อพลังงานที่เราส่งออกไป ซึ่งก็คือแรงสั่นสะเทือนของเรา หากเรามีแรงสั่นสะเทือนที่สูงและเป็นบวก ชีวิตของเราก็จะสะท้อนสิ่งดีๆ กลับมา นอกจากนี้ หนังสือยังกล่าวถึงหลักการที่อยู่เบื้องหลัง 'กฎแห่งแรงดึงดูด' โดยชี้ว่าแรงสั่นสะเทือนเป็นองค์ประกอบสำคัญที่มักถูกละเลยในการดึงดูดสิ่งที่ต้องการเข้ามาในชีวิต
2. อะไรคือความหมายที่แท้จริงของ 'การรักตัวเอง' ตามแหล่งข้อมูลนี้?
การรักตัวเองถูกอธิบายว่าเป็นความสมดุลระหว่างการยอมรับตัวเองในแบบที่เราเป็น พร้อมทั้งตระหนักรู้ว่าเราสมควรได้รับสิ่งที่ดีกว่าและมุ่งมั่นพัฒนาตนเองไปสู่สิ่งนั้น มันไม่ใช่ข้ออ้างที่จะหยุดพัฒนา แต่เป็นการรักและเห็นคุณค่าในตัวเองอย่างไม่มีเงื่อนไข ไม่ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพหรือไม่ก็ตาม การรักตัวเองคือการคำนึงถึงผลประโยชน์สูงสุดของตัวเองในทุกๆ ด้าน ตั้งแต่การเลือกอาหารไปจนถึงความสัมพันธ์ส่วนตัว ซึ่งนำไปสู่การยอมรับในตัวเอง การเสริมพลัง และการปลดปล่อยตนเอง
3. แหล่งข้อมูลนี้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับ 'พฤติกรรมเชิงบวก' อะไรบ้างเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต?
หนังสือแนะนำพฤติกรรมเชิงบวกหลายประการ เช่น การอยู่ร่วมกับผู้คนที่เป็นบวก การปรับภาษากายให้เป็นบวก การหาเวลาพักผ่อน การค้นหาแรงบันดาลใจ การหลีกเลี่ยงการนินทาและดราม่า การใส่ใจเรื่องโภชนาการและน้ำดื่ม การแสดงความรู้สึกขอบคุณ การเรียนรู้อารมณ์ของตนเอง การมีสติอยู่กับปัจจุบัน และการทำสมาธิ พฤติกรรมเหล่านี้ล้วนมีส่วนช่วยในการยกระดับแรงสั่นสะเทือนและสร้างชีวิตที่เป็นบวก
4. เหตุใดการหลีกเลี่ยงการนินทาและการวิพากษ์วิจารณ์ผู้อื่นจึงมีความสำคัญ?
การนินทาและการวิพากษ์วิจารณ์ผู้อื่นเกิดจากอีโก้ที่ต้องการรู้สึกดีกับตัวเองหรือเหนือกว่าผู้อื่น ซึ่งเป็นการแสดงออกถึงการตัดสินผู้อื่น มักมีรากฐานมาจากความเกลียดชังซึ่งเป็นสภาวะแรงสั่นสะเทือนต่ำ การพูดถึงผู้อื่นในแง่ลบเป็นการส่งพลังงานเชิงลบออกไป ทำให้แรงสั่นสะเทือนของตัวเองลดลง และดึงดูดเหตุการณ์ที่ไม่พึงประสงค์เข้ามาในชีวิต การกระทำเหล่านี้ยังส่งผลต่อศูนย์พลังงานหรือจักระในร่างกาย ซึ่งขัดขวางไม่ให้เราเข้าถึงสภาวะแรงสั่นสะเทือนที่สูงขึ้น
5. แหล่งข้อมูลนี้มองเรื่อง 'อีโก้' อย่างไร?
อีโก้ถูกนิยามว่าเป็นภาพลักษณ์ที่เราสร้างขึ้นจากความคิด ซึ่งเป็นเหมือนหน้ากากทางสังคมที่ต้องการการยอมรับอย่างต่อเนื่องและกลัวที่จะสูญเสียตัวตน อีโก้มักแสวงหาความพึงพอใจในทันที ต้องการรู้สึกสำคัญและได้รับการชื่นชม และต้องการมีอำนาจเหนือผู้อื่น มันเป็นเหตุผลที่คนเราซื้อของที่ไม่จำเป็นเพื่อเอาใจคนที่ไม่สนใจ เป็นเหตุผลที่เราขมขื่นกับความสำเร็จของผู้อื่น เป็นรากฐานของความโลภ และขัดขวางเราจากการกระทำด้วยความรักและความเข้าใจ
6. เราจะรับมือกับความคิดและความเชื่อเชิงลบที่อยู่ในจิตใต้สำนึกได้อย่างไร?
จิตใต้สำนึกมีบทบาทในการสร้างความเชื่อของเรา ซึ่งส่งผลต่อการรับรู้และความเป็นจริงของเรา จิตใต้สำนึกเปรียบเสมือนดินที่อุดมสมบูรณ์ที่ดูดซับทุกสิ่งที่ถูกปลูกฝัง ไม่ว่าจะเป็นความคิดเชิงบวกหรือลบ เรามักอนุญาตให้เมล็ดพันธุ์ทั้งดีและร้ายตกลงไป ซึ่งหมายความว่าแนวคิดที่จำกัดศักยภาพมักหยั่งรากในจิตใต้สำนึก เราสามารถเปลี่ยนความคิดและความเชื่อเชิงลบได้โดยการท้าทายความถูกต้องของมัน การตั้งคำถามที่เจาะลึกและแม้กระทั่งคำถามที่รุนแรง เพื่อเปิดเผยข้อจำกัดในการคิด และตระหนักว่าเราสร้างความเศร้าด้วยการเชื่อมโยงบทสรุปเชิงลบเข้ากับประสบการณ์ในอดีต ซึ่งจำเป็นต้องถูกแก้ไขในจิตใต้สำนึก
7. แหล่งข้อมูลนี้แนะนำ 'การทำสมาธิ' และ 'การควบคุมลมหายใจ' เพื่ออะไร?
การทำสมาธิถูกกล่าวถึงว่าเป็นกระบวนการของการมีสติรับรู้ถึงปัจจุบันขณะผ่านประสาทสัมผัสต่างๆ พร้อมสังเกตความคิด อารมณ์ และความรู้สึกทางกายอย่างสงบและไม่ตัดสิน การทำสมาธิช่วยให้เราตระหนักถึงพลังของการมีสติในทุกส่วนของชีวิต ส่วนการหายใจถือเป็นส่วนสำคัญของชีวิตและพลังชีวิต การหายใจที่ลึกและควบคุมได้ช่วยให้ระบบประสาทสงบลง ซึ่งเป็นการเพิ่มแรงสั่นสะเทือนของเรา
8. แหล่งข้อมูลนี้อธิบายถึงกระบวนการ 'การสำแดงเป้าหมาย' อย่างไร?
การสำแดงเป้าหมายเกี่ยวข้องกับการรักษาแรงสั่นสะเทือนที่สูง การมีความคิดและความเชื่อที่เป็นบวก การใช้คำพูดเชิงบวก การตั้งเจตจำนงที่ชัดเจนเกี่ยวกับสิ่งที่ต้องการ การเขียนเป้าหมายในรูปปัจจุบัน การจินตนาการถึงการบรรลุเป้าหมายโดยใช้ประสาทสัมผัสทั้งหมด และที่สำคัญที่สุดคือการลงมือทำตามแรงบันดาลใจและโอกาสที่จักรวาลส่งมาให้ หนังสือย้ำว่าความตั้งใจเพียงอย่างเดียวหากไม่มีการลงมือทำก็เป็นเพียงความปรารถนา และการลงมือทำอย่างสม่ำเสมอ โดยเริ่มจากขั้นตอนเล็กๆ และก้าวออกจากเขตสบาย เป็นสิ่งจำเป็นในการทำให้เป้าหมายเป็นจริง