Show Notes
- พิกัด Lazada/Shopee: https://9natree.top/book/TheLetThemTheory
- พิกัด Kinokuniya: https://9natree.top/p/Kinokuniya/TheLetThemTheory
- Kindle [EN] : https://www.amazon.com/dp/B0DKRVYQ17?tag=9natree-20
#TheLetThemTheory #รีวิวTheLetThemTheory #สรุปTheLetThemTheory #หนังสือTheLetThemTheory
1. ทฤษฎี "ปล่อยพวกเขา" คืออะไร และมีแนวคิดหลักอย่างไร?
ทฤษฎี "ปล่อยพวกเขา" เป็นแนวคิดที่เสนอโดย Mel Robbins ซึ่งมีแก่นหลักอยู่ที่การปล่อยให้ผู้อื่นเป็นในแบบที่พวกเขาเป็น ตัดสินใจในแบบที่พวกเขาต้องการ และใช้ชีวิตในเส้นทางที่พวกเขาเลือก แม้ว่าเส้นทางนั้นอาจจะไม่มีพื้นที่สำหรับเรา หรือไม่เป็นไปตามที่เราคาดหวัง แนวคิดนี้ไม่ใช่การยอมแพ้หรือเฉยชา แต่เป็นการเลือกที่กระตือรือร้นและมีพลังอำนาจที่จะไม่พยายามควบคุมสิ่งที่เราควบคุมไม่ได้ นั่นคือการกระทำ คำพูด ความคิด ความรู้สึก และความคาดหวังของผู้อื่น การนำทฤษฎีนี้มาใช้คือการตระหนักว่าเราใช้เวลาและพลังงานมากเกินไปในการตอบสนอง คิดมาก หรือกังวลเกี่ยวกับคนรอบข้าง ซึ่งทำให้เราสูญเสียพลังอำนาจของตัวเอง
2. ทำไมเราถึงมักจะได้รับผลกระทบจากผู้อื่นมากเกินไป และทฤษฎี "ปล่อยพวกเขา" ช่วยได้อย่างไร?
แหล่งข้อมูลระบุว่าเรามักจะได้รับผลกระทบจากผู้อื่นมากเกินไปโดยไม่รู้ตัว เพราะเราเชื่อผิดๆ ว่าการกระทำของเราสามารถควบคุมการตอบสนองและความรู้สึกของพวกเขาได้ เช่น คิดว่าถ้าพูดในสิ่งที่ถูกต้อง คนอื่นจะชอบ หรือถ้าทำงานหนักขึ้น เจ้านายจะเคารพ หรือถ้าทำตามความคาดหวังของครอบครัวและเพื่อน จะมีความสุขภายใน การพยายามทำให้ทุกคนพอใจหรือควบคุมความคิดเห็นของผู้อื่นเป็นวงจรที่เหนื่อยหน่ายและทำให้เรามอบอำนาจของตัวเองให้กับผู้อื่น ทฤษฎี "ปล่อยพวกเขา" ช่วยปลดปล่อยเราจากวงจรนี้ โดยสอนให้เรารู้ว่าความคิดเห็นของผู้อื่นนั้นเป็นสิ่งที่ควบคุมไม่ได้ และการพยายามควบคุมมันมีแต่จะทำให้ชีวิตแย่ลง เมื่อเรายอมให้พวกเขาคิดในแบบที่พวกเขาต้องการ เราก็จะมีอิสระในการใช้ชีวิตในแบบที่เราต้องการ และมุ่งเน้นพลังงานไปที่สิ่งที่เราควบคุมได้
3. "ปล่อยพวกเขา" แตกต่างจาก "ปล่อยไปเถอะ" อย่างไร?
Mel Robbins เน้นย้ำว่า "ปล่อยพวกเขา" ไม่ใช่ "ปล่อยไปเถอะ" การ "ปล่อยไปเถอะ" เป็นการยอมแพ้ในสิ่งที่รบกวนจิตใจ ซึ่งมักจะทำให้รู้สึกไม่พอใจ เพราะเหมือนกับการเก็บกลั้นความรู้สึกเอาไว้และเดินหน้าต่อไป เป็นการกระทำที่ให้ความรู้สึกไร้อำนาจ ในทางตรงกันข้าม "ปล่อยพวกเขา" เป็นการเลือกที่มีพลังและกระตือรือร้นที่จะอนุญาตให้ผู้อื่นเป็นในแบบที่พวกเขาเป็น เป็นการยอมรับความจริงที่ว่าเราไม่สามารถควบคุมการกระทำหรือความคิดของพวกเขาได้ แต่เราสามารถเลือกวิธีที่เราจะตอบสนองต่อสิ่งเหล่านั้นได้
4. ทฤษฎี "ปล่อยพวกเขา" สามารถนำมาใช้ในชีวิตจริงอย่างไรบ้าง?
ทฤษฎีนี้สามารถนำมาใช้ได้ในหลายด้านของชีวิต เช่น:
ในที่ทำงาน: เมื่อนำเสนอไอเดียแล้วไม่มีคนตอบสนอง แทนที่จะสงสัยในตัวเองและพยายามเปลี่ยนวิธีนำเสนอ ให้ "ปล่อยพวกเขา" แสดงให้เห็นว่าพวกเขาไม่สนใจไอเดียนั้น และหันมาให้ความสนใจกับสิ่งที่เราควบคุมได้ เช่น การพัฒนาไอเดียต่อไปหรือหาโอกาสอื่น
ในการออกเดท: เมื่อถูกโกสต์ แทนที่จะคิดมากว่าทำอะไรผิดไป ให้ "ปล่อยพวกเขา" แสดงให้เห็นว่าพวกเขาเป็นใคร การขาดความเคารพของพวกเขาไม่ได้สะท้อนถึงคุณ แต่การตอบสนองของคุณต่างหากที่สะท้อนถึงคุณ และให้มุ่งเน้นที่การจัดการอารมณ์ของตัวเองและตระหนักว่าคุณสมควรได้รับการปฏิบัติด้วยความเคารพ
ในความสัมพันธ์: แทนที่จะพยายามเปลี่ยนแปลงคู่ค้า ครอบครัว หรือเพื่อน ให้ "ปล่อยพวกเขา" เป็นในแบบที่พวกเขาเป็น การยอมรับผู้อื่นในแบบที่พวกเขาเป็นคือพื้นฐานของความสัมพันธ์ที่แข็งแรงและเปี่ยมด้วยความรัก
5. ทฤษฎี "ปล่อยพวกเขา" ช่วยให้เราหลุดพ้นจากความกลัวและความลังเลได้อย่างไร?
ความกลัวความคิดเห็นของผู้อื่นเป็นสาเหตุสำคัญของความไม่มั่นคงในตนเอง ความลังเล การผัดวันประกันพรุ่ง การคิดมากเกินไป และความกลัวที่จะเสี่ยง เมื่อเรากลัวว่าคนอื่นจะคิดหรือพูดอะไร เรามักจะจำกัดศักยภาพของตัวเองและป้องกันตัวเองจากการทำสิ่งที่เราต้องการอย่างแท้จริง ทฤษฎี "ปล่อยพวกเขา" สอนให้เรายอมรับความจริงว่าจะมีผู้ใหญ่บางคนที่มีความคิดเห็นเกี่ยวกับเราเสมอไม่ว่าเราจะทำอะไรก็ตาม เมื่อเรายอมให้พวกเขาคิดในแบบที่พวกเขาต้องการ เราก็จะมีอิสระในการลงมือทำสิ่งที่เราต้องการโดยไม่ต้องกังวลถึงคำตัดสิน ซึ่งช่วยเพิ่มความกล้าหาญและทำให้เรามุ่งเน้นไปที่การไล่ตามความฝันของเรา
6. เราจะใช้ทฤษฎี "ปล่อยพวกเขา" เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นได้อย่างไร โดยเฉพาะในด้านความรักและการคบหาดูใจ?
ในการสร้างความสัมพันธ์ที่ดี เราต้อง "ปล่อยพวกเขา" แสดงให้เห็นว่าพวกเขาเป็นใครและเราอยู่ในสถานะใดในชีวิตของพวกเขา พฤติกรรมของคนจะบอกเราอย่างชัดเจนว่าพวกเขารู้สึกอย่างไรกับเรา หน้าที่ของเราคือปล่อยให้พวกเขาแสดงออกและยอมรับมัน เราต้องเรียนรู้ที่จะเลิกพยายามตีความหรือสงสัยในพฤติกรรมของพวกเขา และมุ่งเน้นที่การเลือกความสัมพันธ์ที่เราสมควรได้รับ แทนที่จะไล่ตามความสัมพันธ์ที่ไม่ถูกต้อง การใช้ทฤษฎี "ปล่อยพวกเขา" และ "ปล่อยฉัน" ในความสัมพันธ์คือการยอมรับผู้อื่นในแบบที่พวกเขาเป็น แต่ก็ต้องตระหนักว่าเรามีอำนาจในการเลือกวิธีที่เราจะตอบสนองต่อพฤติกรรมของพวกเขา และเลือกความสัมพันธ์ที่สอดคล้องกับความต้องการและคุณค่าของเรา
7. เราจะช่วยให้ผู้อื่นเปลี่ยนแปลงได้อย่างไร หากเราควบคุมพฤติกรรมของพวกเขาไม่ได้?
แหล่งข้อมูลชี้ชัดว่าเราไม่สามารถบังคับให้ใครเปลี่ยนแปลงได้ คนจะเปลี่ยนก็ต่อเมื่อพวกเขาต้องการเปลี่ยนด้วยตัวเองเท่านั้น การพยายามกดดันผู้อื่นให้เปลี่ยนแปลงมีแต่จะสร้างความตึงเครียด ความขุ่นเคือง และความห่างเหินในความสัมพันธ์ การใช้ทฤษฎี "ปล่อยพวกเขา" ในบริบทนี้หมายถึงการยอมรับผู้ใหญ่ในแบบที่พวกเขาเป็น และยอมให้พวกเขาเป็นผู้ควบคุมชีวิตและการตัดสินใจของตัวเอง จากนั้นจึงใช้ส่วน "ปล่อยฉัน" ของทฤษฎี เพื่อมุ่งเน้นไปที่สิ่งที่เราควบคุมได้ นั่นคือพฤติกรรมของเราเอง เราสามารถมีอิทธิพลต่อผู้อื่นได้โดยการทำตัวเป็นแบบอย่างที่ดี แสดงให้เห็นว่าการเปลี่ยนแปลงนั้นสนุกและง่ายเพียงใด และใช้คำถามที่สร้างแรงจูงใจเพื่อชวนให้พวกเขาคิดถึงสถานการณ์ของตัวเอง แต่เราต้องทำด้วยความอดทนและปราศจากความคาดหวังว่าพวกเขาจะต้องเปลี่ยน
8. ทำไมการรับผิดชอบชีวิตของตัวเองจึงเป็นส่วนสำคัญที่สุดของทฤษฎี "ปล่อยพวกเขา"?
หัวใจสำคัญของทฤษฎี "ปล่อยพวกเขา" คือการตระหนักว่าเราคือผู้รับผิดชอบความสุข ชีวิต สุขภาพ การเยียวยาชีวิตทางสังคม มิตรภาพ ขอบเขตความต้องการ และความสำเร็จของเราเอง ไม่มีใครจะมาช่วยชีวิต แก้ปัญหา จ่ายบิล สร้างชีวิตทางสังคม เยียวยาบาดแผล เป็นคู่ครองในฝัน หรือกระตุ้นให้เราเป็นเวอร์ชันที่ดีที่สุดของตัวเอง เราต้องเลิกโทษผู้อื่นและรอคอยการอนุญาตหรือคำเชิญ และเริ่มรับผิดชอบสิ่งที่ต้องการในชีวิต การใช้ทฤษฎี "ปล่อยพวกเขา" อย่างแท้จริงคือการหยุดเสียเวลาและพลังงานในการกังวลเกี่ยวกับความคิด ความรู้สึก และการกระทำของผู้อื่น และหันมามุ่งเน้นไปที่สิ่งที่เราควบคุมได้ นั่นคือคำพูด ความคิด และการกระทำของเราเอง ซึ่งนี่คือที่มาของพลังอำนาจที่แท้จริงและเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างชีวิตที่เราต้องการ