Show Notes
- พิกัด Lazada/Shopee: https://9natree.top/book/ThePowerofNow
- พิกัด Kinokuniya: https://9natree.top/p/Kinokuniya/ThePowerofNow
- Kindle [EN] : https://www.amazon.com/dp/B002361MLA?tag=9natree-20
#ThePowerofNow #รีวิวThePowerofNow #สรุปThePowerofNow #หนังสือThePowerofNow
1. "พลังแห่งปัจจุบัน" คืออะไร และเหตุใดจึงสำคัญ?
พลังแห่งปัจจุบัน คือพลังของการดำรงอยู่ของคุณ หรือสภาวะแห่งจิตสำนึกที่ปราศจากรูปแบบความคิด มันเป็นสิ่งสำคัญเพราะมันคือมิติเดียวที่คุณมีชีวิตอยู่จริงและสามารถรับรู้ความเป็นอยู่ ได้อย่างแท้จริง ทั้งอดีตและอนาคตไม่มีอยู่จริงในตัวของมันเอง แต่เป็นเพียงร่องรอยความทรงจำหรือการคาดการณ์ของจิตใจที่เกิดขึ้นในปัจจุบันเท่านั้น การยึดติดกับอดีตหรืออนาคตจะทำให้เกิดความวิตกกังวล ความทุกข์ และความไม่พอใจ ในขณะที่การจดจ่ออยู่กับปัจจุบันจะนำมาซึ่งความสงบสุข ความสุข และการเชื่อมโยงกับความเป็นอยู่ ซึ่งเป็นธรรมชาติที่แท้จริงของคุณ
2. จิตใจของเราเป็น "โรค" ได้อย่างไร และเราจะปลดปล่อยตัวเองจากการเป็นทาสของมันได้อย่างไร?
จิตใจกลายเป็น "โรค" เมื่อมันใช้งานเราแทนที่เราจะใช้งานมัน การคิดกลายเป็นเรื่องบังคับและต่อเนื่อง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการคิดซ้ำๆ ไร้ประโยชน์ และบ่อยครั้งก็เป็นไปในทางลบ จิตใจที่ครอบงำนี้ทำให้เกิดความทุกข์ ความวิตกกังวล และสร้างอัตตา ขึ้นมา ซึ่งเป็นตัวตนที่ถูกสร้างขึ้นจากความคิดและยึดติดกับสิ่งภายนอก ทำให้เกิดความรู้สึกโดดเดี่ยวและเป็นที่มาของความกลัว เพื่อปลดปล่อยตัวเอง เราต้องเริ่มต้นด้วยการ "เฝ้าดูผู้คิด" นั่นคือการรับฟังเสียงในหัวของเราโดยไม่ตัดสิน การสังเกตนี้จะทำให้เกิดช่องว่างในกระแสความคิด นำไปสู่การตระหนักรู้ถึงการมีอยู่ของเราในฐานะผู้สังเกต ซึ่งอยู่เหนือความคิด เมื่อเราถอนพลังงานจากการยึดติดกับความคิด จิตใจก็จะสูญเสียอำนาจครอบงำ และเราจะเริ่มเข้าถึงสติปัญญาที่อยู่เหนือความคิด เช่น ความงาม ความรัก ความคิดสร้างสรรค์ และความสงบภายใน
3. "ความเป็นอยู่" คืออะไร และเหตุใดผู้เขียนจึงหลีกเลี่ยงการใช้คำว่า "พระเจ้า"?
ความเป็นอยู่ คือสถานะธรรมชาติของการรวมเป็นหนึ่งกับความเป็นอยู่ ที่รู้สึกได้ เป็นการเชื่อมโยงกับบางสิ่งที่ไม่อาจประมาณค่าและไม่อาจทำลายได้ ซึ่งเป็นคุณอย่างแท้จริง แต่ก็ยิ่งใหญ่กว่าคุณมาก ผู้เขียนหลีกเลี่ยงการใช้คำว่า "พระเจ้า" บ่อยครั้ง เนื่องจากคำนี้ได้สูญเสียความหมายไปจากการใช้งานผิดๆ มานับพันปี มักจะสร้างภาพลักษณ์ทางจิตใจของใครบางคนหรือบางสิ่งภายนอกตัวคุณ ทำให้มันกลายเป็นแนวคิดที่ปิดกั้น ความเป็นอยู่ไม่สามารถเข้าใจได้ด้วยจิตใจหรือทำให้เป็นวัตถุแห่งความรู้ได้ มันสามารถสัมผัสได้ในฐานะ "ฉันเป็น" ที่ดำรงอยู่ตลอดเวลา เหนือชื่อและรูปแบบใดๆ การตระหนักรู้ถึงสิ่งนี้คือการตรัสรู้และเป็นความจริงที่นำมาซึ่งอิสรภาพ
4. บทบาทของ "เวลาเชิงจิตวิทยา" ในชีวิตของเราคืออะไร และเราจะหยุดสร้างมันได้อย่างไร?
เวลาเชิงจิตวิทยาคือการที่จิตใจยึดติดกับอดีตและอนาคต ทำให้ปัจจุบันเป็นเพียงแค่ทางผ่านไปสู่เป้าหมายในอนาคต อัตตาไม่สามารถทำงานและควบคุมได้หากปราศจากเวลา มันจึงมองว่าปัจจุบันที่ไร้กาลเวลาเป็นภัยคุกคาม การยึดติดกับเวลาเชิงจิตวิทยานี้เป็น "ความเจ็บป่วยทางจิตอย่างร้ายแรงและอันตราย" เพราะมันทำให้เกิดความกลัว ความวิตกกังวล ความไม่พอใจ และขัดขวางไม่ให้เราประสบกับความสุขที่แท้จริง เพื่อหยุดสร้างเวลาเชิงจิตวิทยา เราต้องตระหนักอย่างลึกซึ้งว่าปัจจุบันคือสิ่งเดียวที่เรามี และทำให้ "ตอนนี้" เป็นจุดสนใจหลักในชีวิตของเรา ยอมรับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในปัจจุบัน ไม่ว่าจะไม่พึงประสงค์แค่ไหนก็ตาม ซึ่งจะช่วยให้เราหลุดพ้นจากรูปแบบการต่อต้านของจิตใจ
5. "กายแห่งความเจ็บปวด" คืออะไร และเราจะสลายมันได้อย่างไร?
กายแห่งความเจ็บปวดคือเศษความเจ็บปวดทางอารมณ์ที่สะสมอยู่ในตัวเราจากประสบการณ์ในอดีต ซึ่งรวมถึงความเจ็บปวดในวัยเด็กและจากความไม่รู้สึกตัวของโลก กายแห่งความเจ็บปวดนี้จะตื่นขึ้นและพยายามเข้าควบคุมความคิดและพฤติกรรมของเรา เพื่อสลายมัน เราต้องนำความตระหนักรู้มาสู่ความเจ็บปวดนั้น นั่นคือการเป็นผู้สังเกตการณ์ที่อยู่ตรงหน้าสิ่งที่เกิดขึ้นภายในตัวเรา เมื่อเราสังเกตความรู้สึกเหล่านั้นโดยไม่ตัดสินและไม่ยึดติด ความเจ็บปวดก็จะสูญเสียพลังงานและสลายไปได้ การให้ความสนใจอย่างเต็มที่กับอารมณ์เหล่านี้ โดยปราศจากการตัดสิน เป็นกุญแจสำคัญในการเปลี่ยนแปลงพวกมันให้กลายเป็นจิตสำนึกที่เปล่งประกาย
6. การอยู่ "ในร่างกาย" มีความหมายอย่างไร และเราจะเข้าถึง "กายภายใน" ได้อย่างไร?
การอยู่ "ในร่างกาย" หมายถึงการสัมผัสร่างกายจากภายใน การรู้สึกถึงชีวิตภายในร่างกาย และตระหนักว่าคุณอยู่เหนือรูปแบบภายนอก การยึดติดกับจิตใจทำให้เราขาดการเชื่อมโยงกับความเป็นอยู่และไม่ได้อยู่ในร่างกาย การรับรู้ถึง "กายภายใน" ซึ่งเป็นสนามพลังงานที่ละเอียดอ่อนที่แผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย จะช่วยให้เราเข้าถึงความเป็นอยู่ที่ไม่ปรากฏรูป ซึ่งเป็นประตูสู่ความเป็นอยู่และการเชื่อมโยงกับพระเจ้า วิธีปฏิบัติคือการนำความสนใจไปที่ร่างกายของคุณ รู้สึกถึงพลังชีวิตภายในส่วนต่างๆ ของร่างกาย และท้ายที่สุดก็คือการรับรู้ถึงสนามพลังงานภายในทั้งหมดพร้อมกัน การหายใจอย่างมีสติก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยให้เราเชื่อมโยงกับกายภายในได้
7. ความสัมพันธ์ที่แท้จริงเป็นอย่างไร และเราจะหลุดพ้นจาก "ความสัมพันธ์กับตนเอง" ได้อย่างไร?
ความสัมพันธ์ส่วนใหญ่ในปัจจุบันบกพร่องและไม่สมบูรณ์ เพราะมันมักเกิดจากการยึดติดของอัตตาและความต้องการที่จะเติมเต็มความรู้สึกขาดแคลนในตัวเอง ความรักที่แท้จริงไม่มีขั้วตรงข้าม หาก "ความรัก" ของคุณมีขั้วตรงข้าม นั่นไม่ใช่ความรักแต่เป็นความต้องการของอัตตา การเปลี่ยนแปลงในความสัมพันธ์เกิดขึ้นได้จากการยอมรับคู่ของคุณอย่างสมบูรณ์โดยไม่ตัดสินหรือพยายามเปลี่ยนแปลงพวกเขา ซึ่งจะนำคุณไปเหนืออัตตาและยุติเกมทางจิตใจและการยึดติดทั้งหมด เพื่อให้มีความสัมพันธ์ที่แท้จริงได้ เราต้องเลิก "มีความสัมพันธ์กับตนเอง" เพราะการแยกตัวเราออกเป็น "ฉัน" และ "ตัวฉันเอง" เป็นรากฐานของความซับซ้อน ปัญหา และความขัดแย้งที่ไม่จำเป็น เมื่อเราเป็นหนึ่งเดียวกับตนเอง ไม่ตัดสินหรือปกป้อง "ตัวตน" ที่ถูกสร้างขึ้นจากความคิดอีกต่อไป ความสัมพันธ์อื่นๆ ทั้งหมดก็จะกลายเป็นความสัมพันธ์แห่งความรัก
8. อะไรคือจุดประสงค์ของการยอมจำนน และจะช่วยให้เราเผชิญหน้ากับความทุกข์หรือหายนะได้อย่างไร?
การยอมจำนนคือการยอมรับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในปัจจุบันอย่างสมบูรณ์แบบโดยไม่มีข้อแม้ มันไม่ใช่การยอมแพ้หรือการยอมให้ผู้อื่นเอาเปรียบ แต่เป็นการตอบสนองที่ไม่ใช่ปฏิกิริยา ซึ่งมาจากความเข้าใจที่ชัดเจนว่าอะไรที่ถูกต้องสำหรับคุณในขณะนั้น การยอมจำนนจะปลดปล่อยคุณจากการครอบงำของจิตใจและเชื่อมโยงคุณกับความเป็นอยู่โดยตรง เมื่อหายนะเกิดขึ้น หรือเมื่อเราต้องเผชิญกับความเจ็บป่วยรุนแรง การยอมจำนนสามารถเป็นประตูสู่การตื่นรู้ได้ มันบังคับให้เราเข้าสู่สภาวะการรับรู้ในปัจจุบันอย่างเข้มข้น ไม่ให้ความสำคัญกับอดีตหรืออนาคตของสถานการณ์นั้น การยอมจำนนช่วยให้เราเปลี่ยนความทุกข์ให้เป็นจิตสำนึก เปลี่ยนหายนะให้เป็นการตรัสรู้ ทำให้เราตระหนักว่าปัญหาหรือความเจ็บป่วยไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริงของเรา