Show Notes
- พิกัด Lazada/Shopee: https://9natree.top/book/CannotHurtMeMasterYourMindandDefytheOdds
- พิกัด Kinokuniya: https://9natree.top/p/Kinokuniya/CannotHurtMeMasterYourMindandDefytheOdds
- Kindle [EN] : https://www.amazon.com/dp/B07H453KGH?tag=9natree-20
#CannotHurtMeMasterYourMindandDefytheOdds #รีวิวCannotHurtMeMasterYourMindandDefytheOdds #สรุปCannotHurtMeMasterYourMindandDefytheOdds #หนังสือCannotHurtMeMasterYourMindandDefytheOdds
1.หนังสือ "Cant Hurt Me" ของ David Goggins พูดถึงอะไร
หนังสือเล่มนี้เป็นเรื่องราวชีวิตของ David Goggins ผู้ซึ่งเอาชนะความทุกข์ทรมานในวัยเด็ก และใช้ความท้าทายเหล่านี้เป็นเชื้อเพลิงในการเปลี่ยนแปลงตัวเอง เขาอธิบายถึงการเดินทางของเขาจากการเป็นคนที่มีน้ำหนักเกิน ไร้ทิศทาง และอ่านหนังสือไม่เก่ง ไปสู่การเป็นหน่วยซีลของกองทัพเรือสหรัฐฯ นักกีฬาวิ่งอัลตรามาราธอน และผู้พูดสร้างแรงบันดาลใจ หนังสือเล่มนี้เน้นแนวคิดเรื่องความรับผิดชอบต่อตนเอง การเอาชนะขีดจำกัดทางจิตใจ และการใช้ความล้มเหลวเป็นเครื่องมือในการเติบโต
2."I Should Have Been a Statistic" หมายถึงอะไร
ชื่อบทแรกนี้สื่อถึงพื้นเพชีวิตที่ยากลำบากของ Goggins เขาเติบโตขึ้นมาในสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยความรุนแรง การเหยียดเชื้อชาติ และความยากจน โดยอาศัยอยู่ในย่านที่มีความเสี่ยงสูง สภาพเหล่านี้ทำให้เขารู้สึกเหมือนเป็น "สถิติ" ที่มีแนวโน้มจะล้มเหลวในชีวิต อย่างไรก็ตาม แทนที่จะยอมจำนนต่อโชคชะตา เขากลับใช้สถานการณ์ที่โหดร้ายเหล่านั้นเป็นแรงผลักดันในการเปลี่ยนแปลงและพิสูจน์ว่าเขาเหนือกว่าความคาดหวังทางลบที่สังคมอาจมีต่อเขา
3.แนวคิดเรื่อง "Taking Souls" คืออะไร
"Taking Souls" เป็นกลยุทธ์ทางจิตใจที่ Goggins พัฒนาขึ้นระหว่างการฝึกหน่วยซีล BUD/S โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วง Hell Week มันหมายถึงการเอาชนะคู่แข่ง ด้วยความทรหด ความอดทน และการปฏิเสธที่จะยอมแพ้ จนกระทั่งพวกเขารู้สึกพ่ายแพ้และท้อแท้ ไม่ใช่แค่ทางร่างกายแต่ทางจิตใจด้วย Goggins ใช้สิ่งนี้เพื่อหาพลังสำรองในตัวเอง และแม้ว่าจะใช้ในการแข่งขันทางกายภาพ แต่เขายังระบุด้วยว่าสามารถใช้เป็นกลยุทธ์ทางจิตใจเพื่อเอาชนะความยากลำบากส่วนตัวและการสงสัยในตัวเองได้เช่นกัน
4."Armored Mind" เกี่ยวข้องกับอะไร
"Armored Mind" หรือ "จิตใจหุ้มเกราะ" คือแนวคิดของการสร้างกรอบความคิดที่แข็งแกร่งและทนทานอย่างไม่น่าเชื่อ แนวคิดนี้มาจากการยอมรับและเผชิญหน้ากับความกลัว ความไม่มั่นคง และความทรงจำที่เลวร้ายในอดีตแทนที่จะละเลยหรือหลีกเลี่ยงมัน ด้วยการเอาชนะความท้าทายและความล้มเหลวต่างๆ Goggins เชื่อว่าบุคคลจะสามารถ "ทำให้จิตใจด้านชา" ได้ ทำให้มีความทนทานต่อความทุกข์ทางจิตใจและร่างกายมากขึ้น กรอบความคิดนี้ช่วยให้บุคคลสามารถเผชิญหน้ากับความเป็นจริง รับผิดชอบต่อตนเอง และเอาชนะความสงสัยในตนเองได้
5."The Most Powerful Weapon" คืออะไร
จากแหล่งข้อมูลนี้ อาวุธที่ทรงพลังที่สุดดูเหมือนจะเป็น "ความรับผิดชอบต่อตนเอง" Goggins เน้นย้ำถึงความสำคัญของการเผชิญหน้ากับความจริงเกี่ยวกับตัวคุณเองและสถานการณ์ของคุณโดยไม่ปฏิเสธ เขาสาบานตัวเองหน้ากระจก เพื่อยอมรับข้อบกพร่องและความผิดพลาดของเขา การรับผิดชอบต่อสถานการณ์ปัจจุบันของตนเอง แทนที่จะโทษผู้อื่นหรือโชคชะตา ช่วยให้บุคคลสามารถควบคุมและเริ่มกระบวนการเปลี่ยนแปลงตนเองได้
6."Cookie Jar" หมายถึงอะไรในบริบทของหนังสือเล่มนี้
"Cookie Jar" เป็นกลไกในการรับมือทางจิตใจที่ Goggins ใช้เพื่อเอาชนะช่วงเวลาที่เจ็บปวดและยากลำบาก เขาบรรจุความสำเร็จในอดีตของเขา รวมถึงชัยชนะทั้งเล็กและใหญ่ และความท้าทายที่เขาเอาชนะได้ ลงใน "Cookie Jar" นี้ เมื่อเผชิญกับความทุกข์ทรมานหรือความสงสัยในตนเอง เขาจะ "หยิบ Cookie" ออกมาโดยระลึกถึงชัยชนะในอดีตเหล่านั้น เพื่อดึงเอาความเข้มแข็งและแรงจูงใจมาใช้ สิ่งนี้ช่วยให้เขาผลักดันต่อไปได้เมื่อร่างกายและจิตใจของเขากำลังจะยอมแพ้
7.แนวคิดเรื่อง "Governor" ในจิตใจคืออะไร
Goggins อธิบายว่า "Governor" เป็นขีดจำกัดทางจิตใจที่เรากำหนดไว้ให้กับตัวเอง ซึ่งมักจะอยู่ในรูปของความเจ็บปวด ความเหนื่อยล้า ความกลัว และความไม่มั่นคง มันเป็นส่วนหนึ่งของจิตใจเราที่บอกให้เราหยุดก่อนที่เราจะถึงขีดจำกัดที่แท้จริงของเรา แนวคิดคือผู้ว่าราชการนี้ไม่ได้ควบคุมเราอย่างเด็ดขาด เว้นแต่เราจะยอมรับข้อจำกัดของมัน Goggins ส่งเสริมให้ค่อยๆ "ถอด Governor" ออกโดยการผลักดันตัวเองให้ไปไกลกว่าจุดหยุดปกติของเราเพียงเล็กน้อย เพื่อขยายขีดจำกัดของความทนทานต่อความทุกข์ทรมานทั้งทางจิตใจและร่างกาย
8.คำถาม "What If?" มีบทบาทอย่างไร
คำถาม "What If?" เป็นกลยุทธ์สุดท้ายที่ Goggins ใช้เพื่อเอาชนะความสงสัยและความคิดเชิงลบที่อาจเกิดขึ้นหลังจากความล้มเหลวหรือเมื่อเผชิญกับความท้าทายที่ดูเหมือนเป็นไปไม่ได้ มันทำหน้าที่เป็นการ "Fuck You" ต่อผู้ที่เคยสงสัยในตัวคุณหรือขัดขวางคุณ และเป็นเครื่องเตือนใจว่าคุณไม่รู้ขีดจำกัดที่แท้จริงของคุณจนกว่าคุณจะทุ่มสุดตัว คำถามนี้ช่วยให้คุณเผชิญหน้ากับความทรงจำที่มืดมนที่สุดและความกลัวที่เลวร้ายที่สุดของคุณ และยอมรับสิ่งเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราวของคุณ เพื่อให้คุณสามารถใช้มันเป็นเชื้อเพลิงในการใฝ่หาความสำเร็จที่ทะเยอทะยานที่สุดได้