Show Notes
- พิกัด Lazada/Shopee: https://9natree.top/book/EgoIstheEnemy
- พิกัด Kinokuniya: https://9natree.top/p/Kinokuniya/EgoIstheEnemy
- Kindle [EN] : https://www.amazon.com/dp/B015NTIXWE?tag=9natree-20
#EgoIstheEnemy #รีวิวEgoIstheEnemy #สรุปEgoIstheEnemy #หนังสือEgoIstheEnemy
1. อะไรคือคำจำกัดความของ "ตัวตน" ในบริบทของหนังสือเล่มนี้?
ตามหนังสือ "Ego Is the Enemy" คำว่า "ตัวตน" ที่ใช้ในที่นี้หมายถึง "ความเชื่อที่ไม่ดีต่อสุขภาพในความสำคัญของเราเอง" ซึ่งรวมถึงความเย่อหยิ่ง ความทะเยอทะยานที่เน้นตนเอง และความรู้สึกว่าเราเหนือกว่าหรือดีกว่าผู้อื่นเกินขอบเขตของความมั่นใจและพรสวรรค์ที่แท้จริง มันเปรียบเสมือน "เด็กที่เอาแต่ใจ" ภายในตัวทุกคนที่เลือกที่จะทำตามใจตนเองเหนือสิ่งอื่นใด นี่คือตัวตนที่ทำให้เราต้องการเป็น "มากกว่า" ได้รับการยอมรับ "มากกว่า" เกินกว่าประโยชน์ที่สมเหตุสมผล ตัวตนนี้ทำให้การรับรู้ของเราเกี่ยวกับตนเองและโลกรอบตัวบิดเบือนไปจากความเป็นจริง และเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาตนเอง การทำงานร่วมกับผู้อื่น และความสำเร็จในระยะยาว
2. เหตุใด "ตัวตน" จึงถูกมองว่าเป็นศัตรูในเส้นทางสู่ความสำเร็จและการเติบโตส่วนบุคคล?
ตัวตนถูกมองว่าเป็นศัตรูเพราะมันบ่อนทำลายเราในทุกขั้นตอนของเส้นทาง ไม่ว่าจะเป็นการตั้งเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่หรือเล็ก ตัวตนจะขัดขวางเราตั้งแต่เริ่มต้น มันทำให้เราสร้างเรื่องราวเพ้อฝันเกี่ยวกับตัวเอง แสร้งทำเป็นว่ารู้ทุกอย่าง ปล่อยให้ความโดดเด่นของเราลุกโชนอย่างรวดเร็วแต่ก็มอดไหม้ไปอย่างรวดเร็วเช่นกัน ในช่วงประสบความสำเร็จ ตัวตนทำให้เราคิดว่าเราพิเศษ กฎไม่สามารถใช้กับเราได้ ทำให้เราหยุดเรียนรู้ หยุดฟัง และสูญเสียสิ่งที่สำคัญไป ในช่วงความล้มเหลว ตัวตนทำให้เราไม่พร้อมรับมือกับสถานการณ์ที่ยากลำบาก และบ่อยครั้งก็เป็นสาเหตุให้เกิดความล้มเหลวเสียเอง การต่อสู้กับตัวตนจึงเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อป้องกันไม่ให้มันทำลายเราในทุกช่วงของชีวิต
3. ตัวตนแสดงออกอย่างไรในสามช่วงหลักของชีวิต: ความปรารถนา ความสำเร็จ และความล้มเหลว?
ความปรารถนา : ในช่วงที่เรากำลังเริ่มต้นและมุ่งมั่นที่จะทำบางสิ่ง ตัวตนจะทำให้เราสร้างเรื่องราวเพ้อฝันเกี่ยวกับตัวเอง แสร้งทำเป็นว่ามีทุกอย่างอยู่ในมือ ปล่อยให้ความโดดเด่นของเราลุกโชนเร็วแต่ก็มอดไหม้เร็ว ขาดความถ่อมตนและความเข้าใจในความเป็นจริง ตัวตนยังทำให้เรา "พูดคุยมากเกินไป" แทนที่จะลงมือทำจริง ทำให้เราคิดว่าเรา "เป็น" บางสิ่งแล้ว ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้ "ลงมือทำ" มันยังก่อให้เกิดความภาคภูมิใจก่อนเวลาอันควรและความอ่อนแอ
ความสำเร็จ : เมื่อเราประสบความสำเร็จ ตัวตนจะเข้ามาเล่นงานความคิดและบั่นทอนความตั้งใจที่ทำให้เราชนะตั้งแต่แรก ตัวตนทำให้เราคิดว่าเราพิเศษและเหนือกว่าผู้อื่น กฎไม่สามารถใช้กับเราได้ เราหยุดเรียนรู้ หยุดฟัง และสูญเสียสิ่งที่สำคัญไป ตัวตนในระยะนี้สามารถนำไปสู่ความพินาศทางธุรกิจ ความสัมพันธ์ และชีวิตส่วนตัวได้ เนื่องจากเราขาดความยับยั้งชั่งใจ ควบคุมไม่ได้ และอาจถึงขั้นหวาดระแวง
ความล้มเหลว : เมื่อเราเผชิญกับความล้มเหลว ตัวตนทำให้เราไม่พร้อมรับมือ มันทำให้เรามองหาข้อแก้ตัว หลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับความจริง และอาจนำไปสู่พฤติกรรมทำลายล้าง ตนเอง ตัวตนที่ถูกคุกคามเป็นหนึ่งในพลังที่อันตรายที่สุด ทำให้คนเราตอบสนองด้วยความก้าวร้าว ความเดียดฉาน หรือการปฏิเสธความจริง ตัวตนในระยะนี้สามารถทำให้ความล้มเหลวกลายเป็นเรื่องถาวรได้ หากเราไม่เรียนรู้จากข้อผิดพลาด
4. ความถ่อมตนมีบทบาทสำคัญอย่างไรในการเอาชนะตัวตน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเริ่มต้นของความปรารถนา?
ความถ่อมตนเป็นยาแก้พิษสำหรับตัวตน โดยเฉพาะในช่วงที่เรายังเป็น "นักเรียน" ความถ่อมตนทำให้เราเปิดรับการเรียนรู้จากผู้อื่น ยอมรับว่ายังมีสิ่งที่ต้องเรียนรู้ และไม่คิดว่าตัวเองรู้ดีที่สุด การเป็นนักเรียนตลอดชีวิตเป็นสิ่งสำคัญทั้งในการเริ่มต้นและคงความยิ่งใหญ่ไว้ ความถ่อมตนทำให้เราสามารถรับฟีดแบ็กอย่างตรงไปตรงมา มองเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นจากภายใน และมองหาโอกาสที่จะช่วยเหลือผู้อื่น ซึ่งจะช่วยให้เราเรียนรู้ได้มาก และสร้างชื่อเสียงที่ดี
5. การเป็น "นักเรียน" ตลอดชีวิตมีความหมายอย่างไรในการต่อสู้กับตัวตนในทุกช่วงของชีวิต?
การเป็น "นักเรียน" ตลอดชีวิตหมายถึงการเปิดรับการเรียนรู้จากทุกคนและทุกสิ่งอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าเราจะอยู่ในช่วงความปรารถนา ความสำเร็จ หรือความล้มเหลวก็ตาม มันคือการซึมซับสิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัว กรองข้อมูล ยึดติดกับสิ่งที่สามารถนำไปใช้ได้ การเป็นนักเรียนต้องมีการวิพากษ์วิจารณ์ตนเองและมีแรงจูงใจในตนเอง พยายามปรับปรุงความเข้าใจอยู่เสมอ เพื่อที่จะก้าวไปสู่หัวข้อต่อไปหรือความท้าทายต่อไป การเป็นนักเรียนหมายถึงการยอมรับว่าผู้อื่นรู้มากกว่าเรา และเราสามารถได้รับประโยชน์จากความรู้ของพวกเขา การคงสถานะการเป็นนักเรียนช่วยลดตัวตนของเราในช่วงเวลาที่สำคัญในอาชีพการงาน ทำให้เราสามารถซึมซับทุกอย่างที่ทำได้โดยปราศจากอุปสรรคที่ขัดขวางวิสัยทัศน์และความก้าวหน้าของผู้อื่น
6. อะไรคือความแตกต่างระหว่างการ "เป็น" กับการ "ลงมือทำ" และสิ่งนี้เกี่ยวข้องกับตัวตนอย่างไร?
การ "เป็น" มักจะเกี่ยวข้องกับฉลาก ตำแหน่ง หรือสถานะที่เราให้กับตัวเอง ในขณะที่การ "ลงมือทำ" คือการทำงานจริง การสร้างสรรค์ และการกระทำ ตัวตนมักจะผลักดันให้เรายึดติดกับการ "เป็น" มากกว่าการ "ลงมือทำ" เราอาจพอใจกับการมีตำแหน่ง การได้รับการยอมรับ หรือการคิดว่าเราเป็นบางสิ่งบางอย่างแล้ว โดยไม่ได้ให้ความสำคัญกับการทำงานที่จำเป็นจริงๆ ตัวตนทำให้เราสับสนระหว่างการมีอำนาจกับการเป็นผู้มีอำนาจ การมีสิทธิ์กับการถูกต้อง หรือการสร้างความประทับใจกับการน่าประทับใจอย่างแท้จริง การเลือกที่จะ "ลงมือทำ" แทนที่จะ "เป็น" ช่วยให้เรามีสมาธิอยู่กับเป้าหมายที่แท้จริง และสร้างความก้าวหน้าที่ยั่งยืน
7. ทำไมการควบคุมตนเองจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเผชิญกับการดูถูกเหยียดหยามหรือความอยุติธรรม?
การควบคุมตนเองเป็นทักษะที่ยากแต่สำคัญอย่างยิ่งในการต่อสู้กับตัวตน เมื่อเผชิญกับการดูถูกเหยียดหยาม การไม่ได้รับการยอมรับ หรือความอยุติธรรม ตัวตนมักจะกระตุ้นให้เราตอบโต้ แสดงความโกรธ หรือพยายาม "พิสูจน์" ตนเอง แต่หนังสือเล่มนี้ชี้ให้เห็นว่าการถูกผู้อื่นปฏิบัติต่ออย่างไม่ดีไม่ได้ทำให้คุณเสื่อมเสียเกียรติ แต่ทำให้พวกเขาเสื่อมเสีย การปล่อยให้ตัวตนเข้าควบคุมในสถานการณ์เหล่านี้เป็นสูตรสำหรับความล้มเหลว การอดทน อดกลั้น และทำงานหนักขึ้นอย่างเงียบๆ แม้ว่าจะรู้สึกว่าไม่ยุติธรรมก็ตาม เป็นสิ่งจำเป็นในการบรรลุเป้าหมายที่สำคัญกว่า การควบคุมตนเองยังช่วยให้เราไม่หลงเชื่อความคิดที่ว่าเราดีเกินกว่าจะเผชิญกับความยากลำบากหรือความผิดหวังใดๆ
8. อะไรคือ "เวลาที่มีชีวิต" และ "เวลาที่สูญเปล่า" และแนวคิดนี้ช่วยในการเอาชนะตัวตนในยามล้มเหลวได้อย่างไร?
"เวลาที่สูญเปล่า" คือช่วงเวลาที่เราติดอยู่กับสถานการณ์ที่ไม่ได้เลือก และเราปล่อยให้เวลาผ่านไปโดยเปล่าประโยชน์ หรือแย่กว่านั้นคือใช้เวลานั้นไปกับสิ่งที่จะทำให้เราแย่ลง "เวลาที่มีชีวิต" ในทางตรงกันข้าม คือช่วงเวลาที่เราเลือกที่จะใช้สถานการณ์นั้นๆ เพื่อเรียนรู้ เติบโต และพัฒนาตนเอง แม้ว่าเราจะไม่ได้ควบคุมสถานการณ์ภายนอกก็ตาม ในยามล้มเหลว ซึ่งมักจะเป็นช่วงเวลาที่เรามี "เวลาที่สูญเปล่า" การเลือกที่จะใช้มันเป็น "เวลาที่มีชีวิต" โดยการเรียนรู้ การไตร่ตรอง การพัฒนาตนเอง และการหาสิ่งที่สำคัญจริงๆ สำหรับเรา ช่วยให้เราเอาชนะตัวตนที่อยากจะจมปลักอยู่กับการปฏิเสธ ความขมขื่น หรือการแก้ตัว การใช้เวลาที่ยากลำบากเพื่อการพัฒนาตนเอง เป็นวิธีที่ทรงพลังในการต่อสู้กับตัวตนและเตรียมพร้อมสำหรับโอกาสที่จะมาถึง